บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมุ่งมั่นดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ ได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ตามภารกิจของบริษัทฯ และให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยสามารถจำแนกวัตถุประสงค์ได้ดังนี้:
1.1) เพื่อการบริหารจัดการบุคลากร
เช่น การคัดเลือก การว่าจ้าง การพิจารณาค่าตอบแทน เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง การจัดสวัสดิการ และการบริหารทรัพยากรบุคคลในภาพรวม
1.2) เพื่อการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคล
อาทิ การตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ เช่น ทะเบียนราษฎร ทะเบียนนิติบุคคล หรือข้อมูลใบอนุญาตทำงาน เพื่อยืนยันสถานะของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
1.3) เพื่อการดำเนินธุรกรรมและให้บริการ
ครอบคลุมตั้งแต่การยื่นคำร้อง การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการจ่ายค่าตอบแทนและค่าธรรมเนียม ตลอดจนการต่ออายุหรือยกเลิกสถานภาพตามความเหมาะสม
1.4) เพื่อบริหารจัดการผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ
รวมถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตกลงกับลูกค้า และการปฏิบัติตามภาระผูกพันต่าง ๆ
1.5) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และการตลาด
โดยการใช้ข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อปรับปรุงข้อเสนอทางธุรกิจ โปรโมชั่น และประสบการณ์ของลูกค้า
1.6) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ
เช่น การสอบทาน ตรวจสอบภายในหรือภายนอก การรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานรัฐ และการให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมาย
1.7) เพื่อให้บริการหลังการขายและการประสานงานกับลูกค้า
เช่น การติดตามผล การให้คำปรึกษา และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
1.8) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในสถานที่
เช่น การบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกอาคาร และการบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV)
1.9) เพื่อใช้ข้อมูลในระบบออนไลน์และอิเล็กทรอนิกส์
อาทิ การวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ตรงกับความต้องการ
1.10) เพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย
เช่น การใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย การดำเนินคดี หรือการต่อสู้คดีตามกฎหมาย
1.11) วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวัตถุประสงค์หลักข้างต้น และในกรณีที่บริษัทฯ ประสงค์จะใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์อื่นเพิ่มเติม จะดำเนินการแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนทุกครั้ง
ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ การเปิดเผยข้อมูลจะกระทำเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กล่าวมาข้างต้นหรือตามหมายเรียก คำสั่งของศาล หรือคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกัน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมรดก หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
- ฐานการประมวลผลข้อมูลทางกฎหมาย
บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ ดังนี้:
2.1) สิทธิในการถอนความยินยอม
ท่านสามารถถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลของท่านได้ทุกเมื่อ โดยไม่กระทบต่อการใช้ข้อมูลที่ได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
2.2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิตรวจสอบ ขอรับสำเนา และรับทราบแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความดูแลของบริษัทฯ
2.3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล
ท่านสามารถขอรับข้อมูลของท่านในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่อ่านได้ และสามารถให้โอนข้อมูลไปยังหน่วยงานอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
2.4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
ท่านมีสิทธิคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หากไม่มีเหตุผลทางกฎหมายที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับการใช้ข้อมูลดังกล่าว
2.5) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านสามารถขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกต่อไป ในกรณีที่ข้อมูลหมดความจำเป็น หรือใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2.6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล
ท่านสามารถร้องขอให้ระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว เช่น ระหว่างการตรวจสอบ หรือกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
2.7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน หากพบว่ามีความผิดพลาด
2.8) สิทธิในการร้องเรียน
หากพบว่าบริษัทฯ ดำเนินการไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการฯ ได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยินดีรับฟังข้อกังวลจากท่านในเบื้องต้น เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
- ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมหรือได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ บริการที่ใช้ หรือบริบทที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ พร้อมวัตถุประสงค์โดยสรุปได้ดังนี้:
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียด |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล | เช่น คำนำหน้าชื่อ, ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, เลขหนังสือเดินทาง ฯลฯ |
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล | เช่น วันเกิด, เพศ, ส่วนสูง, น้ำหนัก, ภาพถ่าย, สถานภาพสมรส ฯลฯ |
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ | เช่น เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, ที่อยู่, Line ID, แผนที่ตั้ง ฯลฯ |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา | เช่น ตำแหน่งงาน, ประวัติการศึกษา, เงินเดือน, หมายเลขบัญชีธนาคาร ฯลฯ |
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของบริษัทฯ | เช่น รหัสผ่าน, PIN, OTP, ภาพถ่าย, Video, Device ID, Browser info ฯลฯ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน | เช่น เชื้อชาติ, ศาสนา, ความเห็นทางการเมือง, ลายนิ้วมือ, สุขภาพ ฯลฯ |
- ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย และจะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เฉพาะในช่วงเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น โดยมีแนวทางดังนี้:
4.1) การกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษา
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลด้านภาษี การเงิน หรือการจ้างงาน ซึ่งอาจต้องจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งตามข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐ
ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับกำหนดไว้ชัดเจน บริษัทฯ จะพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสมโดยอิงตามวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูล เช่น การให้บริการลูกค้า การตรวจสอบย้อนหลัง การบริหารความสัมพันธ์ หรือการแก้ไขข้อร้องเรียน
4.1) การจัดการข้อมูลที่ไม่มีระยะเวลาแน่นอน
สำหรับข้อมูลที่ไม่มีการระบุระยะเวลาเก็บรักษาไว้อย่างชัดเจน บริษัทฯ จะดำเนินการประเมินความจำเป็นเป็นระยะ โดยพิจารณาจาก:
4.1.1) วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม
4.1.2) ลักษณะและความละเอียดอ่อนของข้อมูล
4.1.3) ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลานานเกินความจำเป็น
4.3) การลบ ทำลาย หรือแปลงข้อมูลให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือพ้นระยะเวลาเก็บรักษา บริษัทฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกต่อไป
วิธีการในการลบหรือทำลายข้อมูลจะดำเนินการด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น:
4.3.1) การลบข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อย่างถาวร
4.3.2) การทำลายเอกสารทางกายภาพด้วยวิธีที่ปลอดภัย (เช่น การใช้เครื่องทำลายเอกสาร)
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจต้องเก็บข้อมูลไว้ต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลัง ป้องกันข้อพิพาท หรือใช้สิทธิตามกฎหมายในอนาคต
- การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น และจะเปิดเผยเฉพาะในส่วนที่จำเป็น โดยข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่อไปนี้:
5.1) บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
ผู้ให้บริการที่ได้รับมอบหมาย เช่น ผู้ให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือการประมวลผลข้อมูลอื่นๆ คู่ค้า ผู้รับเหมา หรือคู่สัญญาทางธุรกิจ เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทจัดส่ง หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ/เอกชนที่เกี่ยวข้อง
5.2) หน่วยงานหรือผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายที่มีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูล เช่น หน่วยงานภาษี สำนักงานประกันสังคม หรือสำนักงานตรวจสอบ
5.3) ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาของบริษัทฯ
ที่ปรึกษาทางกฎหมาย บัญชี หรือเทคนิค
หน่วยงานตรวจสอบทั้งภายในและภายนอก
5.4) บุคคลหรือหน่วยงานที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลให้เฉพาะเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน โดยแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน
6) การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
หากจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมาย โดยพิจารณาจากความเพียงพอของมาตรการคุ้มครองข้อมูลของประเทศปลายทาง ซึ่งจะดำเนินการได้ในกรณีต่อไปนี้:
6.1) เป็นการส่งหรือโอนข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล โดยได้แจ้งให้ทราบถึงความเสี่ยงกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
6.2) จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญา
6.3) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล
6.4) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น ในกรณีที่ไม่สามารถให้ความยินยอมได้
6.5) เป็นการดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
- สิทธิของสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเปิดโอกาสให้เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดได้ ดังต่อไปนี้:
7.1) สิทธิในการถอนความยินยอม
ท่านสามารถถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ โดยการถอนความยินยอมนี้จะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลที่ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนหน้านั้น ยกเว้นกรณีที่มีกฎหมายหรือสัญญากำหนดไว้
7.2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอรับสำเนาข้อมูล หรือสอบถามที่มาของข้อมูลได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอหากมีเหตุผลตามกฎหมาย เช่น กระทบสิทธิของบุคคลอื่น หรือเป็นไปตามคำสั่งศาล
7.3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ และ/หรือให้บริษัทฯ โอนย้ายข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต
7.4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลในบางกรณี เช่น หากการประมวลผลนั้นไม่มีกฎหมายรองรับ หรือไม่สามารถแสดงเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายที่มีน้ำหนักมากพอได้
7.5) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถร้องขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีที่ข้อมูลหมดความจำเป็น หรือถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเมื่อท่านถอนความยินยอมหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลแล้ว
7.6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราวได้ เช่น ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอแก้ไขข้อมูล หรือในกรณีที่การใช้ข้อมูลไม่เป็นไปตามกฎหมาย
7.7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
หากข้อมูลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ หรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
7.8) สิทธิในการร้องเรียน
หากท่านเห็นว่าบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ท่านแจ้งข้อร้องเรียนมายังบริษัทฯ ก่อน เพื่อให้สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
8) โทษจากการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อาจส่งผลให้มีการดำเนินการทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ (สำหรับพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทฯ) หรือการบังคับใช้บทลงโทษตามข้อตกลงเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของกรณีและความสัมพันธ์ที่บุคคลมีต่อบริษัทฯ
นอกจากนี้ การละเมิดดังกล่าวอาจส่งผลให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อกำหนดบังคับที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
9) การปรับปรุงและแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามที่เห็นสมควร โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.megachem.co.th พร้อมระบุวันที่ที่มีผลบังคับใช้ในแต่ละฉบับ ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ท่านติดตามข้อมูลนโยบายฉบับปรับปรุงผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ
การที่ท่านยังคงใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ภายหลังวันที่บังคับใช้นโยบายฉบับใหม่ จะถือว่าท่านยอมรับข้อกำหนดตามนโยบายที่แก้ไขแล้ว หากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้ ขอความกรุณาหยุดการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการดังกล่าว และติดต่อบริษัทฯ เพื่อชี้แจงข้อกังวลของท่านต่อไป
10) การติดต่อสอบถามหรือการใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ รวมถึงหากท่านต้องการใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่:
สถานที่ติดต่อ: | บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน
25 ซ.ฉลองกรุง 31 นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซ.G1/9 |
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer): | E-mail: pdpa.compliance@megachem.co.th
โทร: 02-739-6333 |